วันเสาร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2558

ที่สุดของการลงทุนปี 2557

ปี 2557 ผ่านไป ปี 2558 ผ่านเข้ามา มาดูกันว่า การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ตลอดปี 2557 เป็นอย่างไรบ้าง

① ดัชนีหุ้นไทย (ข้อมูลจาก Aspen for Windows)

เมื่อพิจารณาจากดัชนีผลตอบแทนรวมหรือ Total Return Index (TRI) ของหุ้นกลุ่มต่างๆ ซึ่งสะท้อนทั้งผลจากราคาหุ้น การจ่ายปันผล และการได้รับสิทธิต่างๆ เช่น หุ้นปันผล ใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrants) ไว้หมดแล้ว พบว่า

กลุ่มหุ้นเล็ก (ที่ไม่ค่อยจะเล็กแล้ว) หรือ mai … ร้อนแรงที่สุด บวกไป 98.95% หรือเกือบ 1 เท่าตัว โดยหลายท่านคงจะทราบว่าหุ้นที่เป็นผู้นำในตลาด mai คือ Energy Absolute (EA) ซึ่งมีสัดส่วนมูลค่าตลาดถึง 24% หรือเกือบ 1 ใน 4 ของทั้งตลาด mai … และเฉพาะหุ้น EA ตัวเดียว บวกไปถึง 226% ตลอดปี 2557

กลุ่มหุ้นโดยรวม หรือ SET TRI ถึงจะไม่ร้อนแรงเท่าหุ้นเล็ก แต่ก็บวกไปถึง 19.11%
กลุ่มหุ้นใหญ่ หรือ SET50 TRI บวกตามมาที่ 16.98%

ขณะที่ กลุ่มหุ้นปันผล หรือ SET 30 High Dividend TRI รั้งท้าย บวกขึ้นมาเพียง 9.31% เท่ากับว่า ปี 2557 ใครเน้นหุ้นปันผลตัวใหญ่ๆ จะได้ผลตอบแทนตามหลังหุ้นทั่วๆ ไป (SET TRI) อยู่ถึงครึ่งทาง

② หุ้นไทยรายตัว (ข้อมูลจาก setsmart.com และ Aspen for Windows)

3 อันดับแรกที่บวกร้อนแรงที่สุด คือ

• บริษัท แอสเซท ไบร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ ABC บวกขึ้นมาจาก 0.16 บาท เมื่อปลายปี 2556 มาอยู่ที่ 4.46 บาท เมื่อสิ้นปี 2557 หรือบวก 2,688% (เกือบ 27 เด้ง) โดยมีการตบจูบลากขึ้นทุบลงหลายรอบ

• บริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน) หรือ UWC บวกขึ้นมาจาก 2.26 บาท มาอยู่ที่ 37 บาท  หรือบวก 1,537% (15 เด้งเศษ) และที่เหลือเชื่อมากก็คือ 15 เด้งนี้ มาเกิดเอาในช่วง 2-3 เดือนสุดท้ายของปี

• บริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) หรือ DIMET บวกขึ้นมาจาก 1.23 บาท มาอยู่ที่ 13.8 บาท หรือบวก 1,021% (10 เด้งเศษ)

3 อันดับแรกที่ร่วงเยินที่สุด คือ

• บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC ร่วงจาก 0.62 บาท เมื่อปลายปี 2556 มาเหลือเพียง 0.08 บาท เมื่อสิ้นปี 2557 เท่ากับร่วงลงไป 87% (เหลือเพียง 1 ใน 8)

• บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AS ร่วงจาก 8.80 บาท เหลือเพียง 3.80 บาท  เท่ากับร่วงลงไป 57% (เหลือไม่ถึงครึ่ง)

• บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ AMARIN ร่วงจาก 19.18 บาท  เหลือเพียง 10.40 บาท เท่ากับร่วงลงไป 46% (เหลือเพียงครึ่งเดียว)

③ กองทุนรวมที่ซื้อได้ในประเทศไทยซึ่งรวมกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ  (ข้อมูลจาก morningstarthailand.com)

กองทุนหุ้น
เด่นสุด: กองทุนเปิดเอคควิตี้โปร หุ้นระยะยาว (บลจ.โซลาริส) บวก 38.27% ตามมาด้วย กองทุนเปิดทหารไทย China Equity Index (บลจ.ทหารไทย) บวก 37.00%

ดับสุด: กองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิเมอร์จิ้ง อีสเทอร์น ยุโรป เอฟไอเอฟ (บลจ.แมนูไลฟ์) ลบ 31.83% ตามมาด้วย กองทุนเปิด เคแทม เวิลด์ เมทัล แอนด์ ไมน์นิ่ง ฟันด์ (บลจ.กรุงไทย) ลบ 23.34%

กองทุนตราสารหนี้
เด่นสุด: กองทุนเปิด โกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต – ปันผล (บลจ.ยูโอบี) บวก 10.40% ตามมาด้วย กองทุนเปิดเคแอสเซ็ท โกลบัล ฟิกซ์อินคัม 4 (บลจ.กสิกรไทย) บวก 10.00%

ดับสุด: กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่ (บลจ.ไทยพาณิชย์) ลบ 7.14% ตามมาด้วย กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้นและเงินฝากสกุลเงินออสเตรเลีย (บลจ.ไทยพาณิชย์) ลบ 7.04%

กองทุนผสม
เด่นสุด: กองทุนเปิดไทยทวีทุน 2 (บลจ.กรุงไทย) บวก 47.63% ตามมาด้วย กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี-บีทีอินคัมโกรทฟันด์ (บลจ.เอ็มเอฟซี) บวก 23.27%

ดับสุด: เอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล เทน (บลจ.เอ็มเอฟซี) ลบ 35.14% ตามมาด้วย กองทุนเปิดเคแทม อินเวสเมนท์ เลเจนด์ ฟันด์ (บลจ.กรุงไทย) ลบ 9.04%

กองทุนตลาดเงิน
เด่นสุด: กองทุนเปิด เคเอ ชอร์ท เทอม ฟิกซ์ อินคัม (บลจ.กสิกรไทย) บวก 2.92%

ดับสุด: กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารรัฐตลาดเงิน (บลจ.ไทยพาณิชย์) บวก 1.52% (บวกน้อยที่สุดในบรรดากองทุนตลาดเงิน)

กองทุนหุ้นระยะยาว (LTF)
เด่นสุด: กองทุนเปิดเอคควิตี้โปร หุ้นระยะยาว  (บลจ.โซลาริส) บวก 38.27% ตามมาด้วย กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีเพิ่มค่าหุ้นระยะยาว (บลจ.เอ็มเอฟซี) บวก 26.83%

ดับสุด (บวกน้อยสุด): กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีอิสลามิกหุ้นระยะยาว (บลจ.เอ็มเอฟซี) บวก 3.17% ตามมาด้วย กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวอิควิตี้ 70 ปันผล (บลจ.กรุงศรี) บวก 5.57%

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น