วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เกมที่ไม่เคยชนะกับหุ้น ABC

ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนที่ชื่นชอบหุ้นร้อนคงได้ยินชื่อ ABC ที่ทำสถิติขึ้นติด Ceiling 6 วันติดต่อกัน จาก 1.84 บาท เป็น 8.2 บาท หรือ 445% ภายใน 6 วันทำการ (แต่จริงแล้วราคาจากดังเดิมเพียง 0.38 บาท) บริษัทนี้เคยเป็นบริษัทที่รับทำถุงเท้าให้ brand ต่างๆหลายยี่ห้อ (เท่าที่ทราบไม่มี carson ที่ทุกคนใส่กัน ) จากนั้นเปลี่ยนแนวมาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และมี story ที่กำลังไปได้สวยกับธุรกิจใหม่

ถ้าเราลองจินตนาการว่าใครโชคดีมีหุ้นตัวนี้ติดมือมาก่อน จะกำไรทันที่มากกว่าคนลงทุนระยาวเป็น 10 ปีเสียด้วยซ้ำ แต่ถ้าเรามองอีกด้านนี้หุ้นตัวนี้ไม่ได้ทำมาเพื่อให้นักลงทุนรายย่อยกำไร แต่อาจเป็นหุ้นที่ถูกสร้างมาหาเงินจากเราต่างหาก เป็นเกมหุ้นปั่นซึ่งเป็นเกมส์ที่เราไม่เคยชนะ

ABC ณวันที่ 28 ส.ค. 2557 ที่ใกล้จะเป็นช่วงก่อนเจ้ามือจะทิ้งหุ้นทำกำไร

ผมขออนุญาตินำบทความที่ผมได้เรียนรู้มาจาก คุณ เสาวนีย์ สุวรรณรงค์ ที่อธิบายเกมนี้ได้ค่อนข้างดีมาก มาประกอบในการตัดสินใจที่จะลงทุน กับเกมนี้ที่เราอาจจะไม่ชนะ

เกมปั่นหุ้น เพียงเพราะคิดว่าเป็นโอกาสได้กำไรง่ายและเร็ว แต่ในสายตาของเจ้ามือ นี่คือการจัดปาร์ตี้ล่อเหยื่อเพื่อรอทำกำไร ก่อนจะจากไปโดยทิ้งไว้แต่ความเสียหายให้เหยื่อและภาพลักษณ์ที่เสื่อมเสียของตลาดหุ้น!!! เกมปั่นหุ้นเป็นเกมที่เจ้ามือเป็นผู้กำหนดกติกา ควบคุมเกมทุกจุด ตั้งแต่เลือกเก็บหุ้น ตั้งราคาเป้าหมาย เจาะจงจังหวะทำกำไร ที่ร้ายที่สุดคือ ตัวเองลงมาเล่นด้วย โดยผู้ร่วมเล่นอื่นหรือเหยื่อ (ทั้งที่เต็มใจและไม่รู้อิโหน่อิเหน่) ไม่มีทางรู้กติกาของเจ้ามือ (ซึ่งขณะเดียวกันก็เป็นผู้ร่วมเล่น) แค่นี้ก็เห็นแล้วว่าเอาเปรียบกันชัดๆ แล้วอย่างนี้ใครจะชนะหรือทันเจ้ามือได้ภาพจำลองเกมปั่นหุ้น จากข้อมูลที่ ก.ล.ต. ตรวจพบและเก็บสถิติไว้ พบว่า รูปแบบของเกมปั่นหุ้นมักเป็นกราฟภูเขายอดแหลม ประกอบด้วย 4 ช่วง คือ (1) เก็บ (2) ปั่น (3) ทำกำไร แล้ว (4) ทิ้ง


หุ้นที่ถูกเลือกมาปั่นราคา มักเป็นหุ้นที่มีมูลค่าตลาดต่ำ มีปริมาณการซื้อขายน้อยมากหรือแทบไม่มี และไม่อยู่ในความสนใจหรือพอร์ตของผู้ลงทุนสถาบัน เพราะเจ้ามือจะสามารถควบคุมราคาได้ง่าย แล้วเริ่มเปิดเกมด้วย
1 ทยอยเก็บสะสมหุ้น ให้ได้จำนวนตามที่ต้องการ ซึ่งระยะนี้เจ้ามือจะทำอย่างค่อยๆ เงียบ ๆ ไม่กระโตกกระตากเพื่อไม่ให้ราคาพุ่ง ต้นทุนจะได้ไม่สูง จากนั้นเข้าสู่ช่วง
2 ปั่นราคาให้สูง โดยเจ้ามือจะอัดปริมาณซื้อขายให้มากๆ ด้วยการโยนหุ้นไปมาระหว่างสมาชิกในกลุ่มเจ้ามือ ผสมโรงกับข่าวลือเพื่อสร้างความน่าสนใจจนหลายคนแห่เข้ามาซื้อ ดันให้ราคาหุ้นขึ้น อาจชน Ceiling 30% ติดต่อกันหลายวัน กราฟราคาช่วงนี้จะชันมาก และเมื่อปั่นราคาจนถึงเป้าหมาย ก็เข้าสู่ช่วง 3 ทำกำไร เจ้ามือจะทำการปล่อยของ ซึ่งมีทั้งแบบทิ้งรอบเดียวจบ และทยอยปล่อยเป็นล็อตๆ เพื่อให้สามารถปล่อยที่ราคาสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้  โดยไม่ทำให้เหยื่อรู้ตัว พอเจ้ามือทิ้ง ราคาหุ้นนั้นก็ร่วง ผู้ลงทุนที่ไม่ใช่กลุ่มเจ้ามือจึงพากันติดอยู่ในช่วงนี้ หลังจากเจ้ามืออิ่มหมีพีมันแล้วจึงเข้าสู่ช่วง
4 ทิ้ง ไม่เหลือเจ้ามือในตลาดแล้ว ราคากลับสู่ปัจจัยพื้นฐาน (ต่ำเหมือนก่อนปั่น) แล้วนิ่งสนิท บางคนอาจเจ็บมากหน่อยที่ช้อนซื้อเฉลี่ยต้นทุนเข้าไปอีก จากข้อมูลมีเหมือนกันว่า เจ้ามือทำกำไรมากกว่าหนึ่งรอบในหุ้นบางตัว ช่วงการสร้างราคาหุ้นแต่ละตัวมีความไม่แน่นอน ตั้งแต่ไม่ถึงสัปดาห์ไปจนถึง 3 เดือน ซึ่ง ไม่มีทางที่เหยื่อจะรู้จังหวะของเจ้ามือล่วงหน้าได้

ผลประโยชน์จากที่ลองคำนวณดูในแต่ละหุ้น มีตั้งแต่หลักหมื่นบาทไปจนถึงหลายสิบล้านบาท ในขณะที่เหยื่อบางรายพึงพอใจกับค่ากับข้าวเพียงไม่กี่พันบาท ส่วนเหยื่อจำนวนมากกว่าติดค้างในราคาที่สูง ขายเมื่อไรขาดทุนเมื่อนั้น ถือไปก็ช้ำใจไม่มีอนาคต

โดยส่วนตัวผมมองว่าหุ้น ABC กำลังสร้างปรากฏการณ์คล้ายหุ้น PTL เมื่อ3  - 4 ปีก่อน ที่มีการสร้าง story ทางธุรกิจใหม่ และกำลังอยู่ในช่วงเจ้ากำลังทำกำไรแล้ว นักลงทุนที่หวังจะทำกำไรในระยะเวลาอันสั้น ต้องคิดทบทวนให้มากก่อนการตัดสินใจลงทุน เพราะเงินลงทนของเราทุกคนไม่ได้หากันมาง่ายๆ ผมรู้จักผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่นำเงินบำเน็จเกษียณมาลงทุนหุ้นลักษณะอย่างนี้เพื่อหวังจะรวยเร็ว แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม ก่อนการตัดสินใจลงทุนหุ้นลักษณะนี้ต้องศึกษาพื้นฐานของบริษัท ลักษณะการทำธุรกิจ งบบัญชีอย่างลึกซื้งก่อน การตัดสินใจลงทุนอย่างรอบครอบ ผมหวังว่านักลงทุนทุกคนจะมีสติก่อนการตัดสินใจลงทุน ทุกครั้งครับ

ข้อมูลประกอบจาก  คุณเสาวนีย์ สุวรรณรงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่วเสริมความรู้ด้านการเงิน ก.ล.ต

วันอังคารที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ถือหุ้นนาน 5 ปีได้อะไรตอบแทน

เมื่อตอนผมเริ่มเล่นหุ้นใหม่ๆเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้วผมเป็นนักศึกษาจบใหม่ที่แทบจะไม่รู้จักหุ้นเลย แต่เคยเห็นผู้ใหญ่รอบตัวเล่นมาบ้าง และก็เจ๊งกันทุกราย เพราะสมัยนั้นคนเล่นหุ้น ก็เล่นหุ้นกันจริง ซื้อเช้าขายบ่าย ซื้อบ่ายขายเช้าอีกวันไม่เคยมีใครคิดจะลงทุนหุ้นแล้วถือไปนานๆ สักคน เมื่อผมเริ่มเล่นหุ้นผมก็ตามแนวผู้ใหญ่รอบตัวผมนี้แหละ แล้วก็เจ็บตัวไปตามๆกัน แต่ยังดีที่เมื่อตอนนั้นผมใช้ internet ซื้อขายได้แล้วจึงเข้าไวออกไว กำไรบ้างเจ๊งบ้างได้บทเรียนการเก็งกำไรรายวันกันไป จนผมเปลี่ยนแนวมาเป็นการลงทุนแบบถือยาวจึงรู้ว่าไม่ต้องเล่นหุ้นแบบซื้อขายบ่อยๆก็รวยได้ ผมมีข้อมูลผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปีจากปัจจุบันมาโชว์ให้ดูว่าซื้อหุ้นดี ปันผลสม่ำเสมอ ถือเอาไว้เฉยๆก็รวยได้







เมื่อดูจากภาพรวมการลงทุนในหุ้น 5 ปีที่ผ่านมา จากสิ้นเดือน มิ.ย. 2552 ถึง มิ.ย. 2557 SET index ขึ้นจาก 597 เป็น 1458 เพิ่มขึ้นประมาณ 150% คิดเป็นผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 25% ต่อปี และยังมีปันผลแถมอีกประมาน 3.5% ต่อปี แต่ถ้าเราเลือกหุ้นดีใน SET 50 และลงทุนเป็นรายตัวเราอาจได้ผลตอบแทนสูงสุดถึง 1870% (หุ้น JAS ) อย่างไรก็ตามผมไม่แนะนำให้ลงทุนเงินทั้งหมดในหุ้น 1 ตัว เราควรเลือกหุ้นที่เป็นเบอร์ 1 ในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม แล้วลองถือยาวสัก 5 ปีดู ว่าเราได้ผลตอบแทนเท่าไหร
ตัวอย่างเช่น
กลุ่มสื่อสาร เลือก advanc
กลุ่มธนาคาร เลือก scb
กลุ่มขนส่งเลือก bts
กลุ่มโรงพยาบาลเลือก bgh
กลุ่มพลังงานเลือก ptt
จะพบว่าแต่ละตัวให้ผลกำไรทุกตัว มากบ้างน้อยบาง
advanc กำไร +143% ปันผล 5.52% ต่อปี
scb กำไร +130% ปันผล 3.12% ต่อปี
bts กำไร +177% ปันผล 6.86% ต่อปี
bgh กำไร +636% ปันผล 1.2% ต่อปี
ptt กำไร +36% ปันผล 4.09% ต่อปี

เหตุผลที่ให้เลือกหุ้นเบอร์ 1 ของอุตสากรรมเนื่องจากการเป็นเบอร์สะท้อนถึงการเป็นผู้ชนะ และมีกำไรสูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรมนั้นๆ
อย่างไรก็ตามระหว่างระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาราคาหุ้นจะแกว่งขึ้นลง จนเราอาจเสียดายว่าหุ้นที่เคยขึ้นแล้วได้กำไร แต่เราไม่ได้ขายและราคาแกว่งลงจนขาดทุนเสียโอกาสทำกำไร ตรงจุดนี้ขอให้เรามีจิตใจมั่นคง และติดตามผลประการของหุ้นที่เราถือทุกไตรมาส ถ้าหุ้นยังคงกำไรเติบโตผมมั่นใจไว้ในระยะยาว 5 ปี เราจะไม่ขาดทุนค่อนค้างแน่นอนครับ

ฝากทิ้งทายว่าการลงทุนในหุ้นดี ขอให้ถือระยะยาว ฝึกทนรวยไปเรื่อย เราจะพบผลตอบแทนที่น่าอัศจรรย์ไม่ยากเกินเอื้อมครับ

ที่มาข้อมูลราคาหุ้นย้อนหลัง SET Smart

วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2557

รวบรวม video สอนการใช้ aspen เพื่อวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค

สมัยนี้ทุกbroker จะให้บริการดูกราฟ technical อย่างน้อย 1 อย่างไม่ aspen for browser หรือไม่ก็ efinance Thai แต่ปัจจุบันผมเห็นว่า aspen for browser ใช้งานได้ง่ายกว่าเนื่องจากใช้งานผ่านweb browser ไม่ว่าจะเป็น IE , Fire fox , chrome จะให้สอนวิธีใช้งานใน blog นี้คงไม่เพียงพอจึงได้รวบรวมวิธีการใช้งานเป็น clip ใน YouTube ตามข้างล่าง เชิญทัษนาตามอัธยาสัย ครับ
1. มาทำความรู้จัก ASPEN4WINDOWS กันก่อน http://youtu.be/rhdqUV7HdTw
3. การใช้งานกราฟ: http://www.youtube.com/watch?v=hvbrB53y33c
4. ดูข้อมูลหุ้นรายตัว: http://www.youtube.com/watch?v=MecO7OF3nAw
5. อ่านข่าว: http://www.youtube.com/watch?v=nAYbG5bgt5I
6. สร้างหน้าเพจให้เหมาะกับตนเอง: http://www.youtube.com/watch?v=Pt33gRRy-lk
7. เพจสำเร็จรูป ใช้แล้วถูกใจ: http://www.youtube.com/watch?v=YU28qdhD8sU
8.  Warrant Analytic Comparison: http://www.youtube.com/watch?v=q75qvuhjuTY
9. คลังความรู้ อับดุลตอบได้ สุดยอดแห่งการหาข้อมูล: http://www.youtube.com/watch?v=GgDtvbyGZSI


เครดิตภาพจาก http://www.fnsyrus.com/


วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2557

แชร์ประสบการณ์การซื้อ iPad Air มือ1 ถูกกว่าราคาตลาดกว่า 22%


ผมเพิ่งให้รางวัลกับชีวิต หลังช่วงที่หลายบริษัทจ่ายเงินปันผลมาปกติผมจะซื้อ iPad จาก I studio ซึ่งเราจะได้ลองสัมผัสของจริงก่อน และได้คำแนะนำการใช้งานจากพนักงานขาย ( พักหลังมักให้คำแนะนำในการขายประกันเครื่องเสมอ ) แต่สำครับคนที่มีประสบการณ์การใช้งานมาแล้วการลองได้สัมผัสเครื่องจริงก่อนซื้อคงไม่มีความจำเป็นเพราะเราสามารถไปสัมผัสเครื่องจริงก่อนใน shop ทั่วไป ผมจึงสนใจอยากซื้อได้เราคาถูกกว่าใน istudio ถ้าเป็นไปได้

ผมจึงไปเจอเครื่อง iPad Air 32gb wifi ที่ผมต้องการในเว๊บขายของชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งราคาขายลดไป13% แล้ว wow ชอบ 



แต่เดี๋ยวก่อน ในเว๊บนี้มีโปรถ้าซื้อวันจันทร์ด้วยบัตรเครดิตของ MasterCard จะลดเพิ่มอีก 10% ยิ่งกระตุ้นความอยากช๊อป พอดีผมมีบัตรเลยรีบจัดวันนั้นเลย เบ็ดเสร็จจ่ายไป 16101 บาท ลดราคาไป 4300 บาทจากราคาเต็มที่ istudio 20400 บาทสำหรับ iPad Air จากนั้นก็รอเชคสถานะสิ้นค้าจากเว็บ สำหรับสินค้าราคาสูงหน่อยเช่นนี้ สถานะจะอัพเดทช้านิดหน่อยนะครับ เนื่องจากทางเว๊บจะโทรมาตรวจสอบว่าเราได้สั่งสินค้าชิ้นนั้นไปจริงๆหรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่ทางการเงินจะโทรมาตรวจสอบภายใน 48 ชั่วโมงแต่ของผมเขาโทรมาตรวจสอบใน 24ชมครับถือว่าทำงานได้เร็ว ผมสั่งสินค้าเมื่อประมาณ 6 โมงเย็นวันจันทร์ ได้สินค้าตอนบ่าย 2 วันพุธ โดยเจ้าหน้าที่ lazada express (LEX) มาส่งให้กับมือ สภาพกล่องบรรจุมีซองกันกระแทกหลายซองใส่มากันสินค้า




ตรวจสภาพกล่องiPad พลาสติกหุ้มตามปกติไม่มีรอยแกะ serial no ของเครื่องตรงกับกล่อง เครื่องเป็นรหัสTH(ไม่โดนแอบส่งเป็นเครื่อง import ตอนซื้อทางเว็บจะแยกไว้ชัดเจนครับว่าเป็นเครื่องศูนย์ หรือเครื่องimport ) และเช็ค  warrantee เริ่มนับจากวันที่สั่งครับไม่ใช่วันที่ได้รับของ (เหมือนกับสั่งกับ apple store เลย) มั่นใจได้ว่าเป็นของใหม่ 100%



 สำหรับคนที่ไม่ค่อยไว้ใจกับการซื่อของทางเนทที่ราคาสูงโดยการสั่งตัดบัตรเครดิต ผมแนะนำว่าให้ซื้อกับรายการที่ทาง lazada เป็นผู้ขายเองจะสบายใจกว่าครับเพราะคนมาส่งจะป็นพนักงานของทาง lazada เลยไว้ใจได้มากกว่าร้านนอกที่จ้าง outsource ( Kerry express ) มาส่งอีกที และถ้าไม่พอใจในสินค้าทาง lazada ใกทำเรื่องคืนใน 14วัน ( แต่ผมยังไม่เคยลอง)

สรุป ซื้อมาได้ลดไป22% ได้เครื่องศูนย์ไทยประกันปกติ1ปี แต่ต้องใช้บัตรดครดิต master card รูดสดผ่อน10เดือนไม่ได้เหมือนistudio ครับ ใครอยากได้iPad Air ราคาพิเศษลองพิจารณาดูนะครับ

*หมายเหตุไม่ได้มีส่วนได้เสียกับ lazada ใดๆ แค่มาแชร์ประสบการณ์เฉยครับ :)

วันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ผลงานของ BTSGIF ที่ผ่านมาในรอบ1ปี


หัวใจของเมืองหลวงในการคมนาคมทุกวันนี้คงหนีไม่พ้นรถไฟฟ้า bts ถึงจะเบียดแน่นอย่างไรทุกคนก็จำเป็นต้องใช้เพื่อหลีกหนีปัญญหาการจราจร เมื่อ1ปีที่แล้วบริษัท bts ได้ขาย รายได้ล่วงหน้าของค่าโดยสาร bts 17 ปีเป็นกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน btsgif ซึ่งเป็นกองทุนพื้นฐานกองแรก และใหญ่ที่สุด เรามาดูผลงานของกองทุน 1 ปีที่ผ่านมากัน


พัฒนาการสำคัญในปี 2556/57
 - สถิติจำนวนผู้โดยสารรวมสูงสุดใหม่ 214.7 ล้านเที่ยวคน ในปี 2556/57 เพิ่มขึ้น 8.9% จากปีก่อน
 - สถิติจำนวนผู้โดยสารต่อเที่ยวสูงสุดใหม่ (ในส่วนรถไฟฟ้าสายหลัก) ที่ 884,769 เที่ยว ณ วันที่ 13 มกราคม 2557 ( ถ้าใครจำได้วันนี้เป็นวันเริ่มประกาศ shut down bangkok )
 - อัตราค่าโดยสารเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 6.5% จากปีก่อน เป็น 26.4 บาทต่อเที่ยว และมีแนวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
 - รถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายสายสีลม จากสถานีวงเวียนใหญ่ถึงสถานีบางหว้า เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2556 บ้านผมอยู่ใกล้สถานีบางหว้าและขึ้นบ่อยๆที่นั่งเต็มตั้งแต่สถานีนี้แล้วครับ



สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุนสำหรับปี 2556/2557 (17 เมษายน 2556 – 31 มีนาคม 2557) กองทุนมีรายได้รวม
3,808.58 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรวม 455.57 ล้านบาท และมีรายได้จากการลงทุนสุทธิ 3,353.01 ล้านบาท โดยกองทุนได้ประกาศจ่าย เงินปันผลจำนวน 4 ครั้ง รวมทั้งสิ้นในอัตรา 0.579 บาทต่อหน่วย คิดเป็นจำนวนทั้งสิ้น 3,351.25 ล้านบาท ทั้งนี้ กองทุนมีค่าใช้จ่ายในการออกและเสนอขายหน่วยลงทุนตัดจำหน่าย จำนวนทั้งสิ้น 353.81 ล้านบาท หรือคิดเป็นจำนวน 0.061 บาทต่อหน่วย ( ถ้าคิด yield ที่ราคา ipo 10.8 จะได้ 5.64% ) ซึ่งบริษัทจัดการจะนำไปจ่ายคืนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในรูปการลดทุนต่อไป กองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2557 เท่ากับ 65,104.51 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11.2481 บาทต่อหน่วย โดยในปี 2556/2557 กองทุนมีการปรับมูลค่าเงินลงทุนในสัญญาซื้อและโอนรายได้สุทธิเพิ่มขึ้นให้เป็นไปตามมูลค่ายุติธรรม จำนวน 1,701.00 ล้านบาท

ที่น่าสนใจมากคือมูลค่าทางบัญชีใหม่ถูกปรับเป็น 11.2481 จากราคา ipo 10.8 แต่ณ ขณะนี้ราคาตลาดอยู่แค่ 10.3 บาท มี margin of safety พอสมควรอาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับยุคดอกเบี้ยเงินฝากประจำถูกช่วงนี่ครับ

อ้างอิงผลประกอบการจากรายงานประจำปี 17เม.ย. 56 - 31 มี.ค. 57